ในเกมที่ 3 หลังกลับมาจากพักเบรคโควิด “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีคิวลงโม่แข้งกับ ‘ไบรจ์ตัน’ ทีมกลางค่อนไปท้ายตาราง หลังจากก่อนหน้านี้ไปเจ๊ากับสเปอร์ในเกมแรก และถล่มเชฟฟิลด์ 3-0 ในเกมที่สอง
ก่อนจะมาถล่มไบรจ์ตันอีก 3-0 ซึ่งนับเป็นชัยชนะแบบ ‘Out Class’ ที่ลูกทีมของโซลชาร์ จัดการครองเกมทุกมุมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาก ซึ่งเรียนตามตรงแล้ว เหล่าขุนพลปีศาจแดง ไม่ได้เพิ่งมาฟอร์มดีเอาช่วงหลังพรีเมียร์ลีกกลับมาเตะ แต่ยูไนเต็ดนั้นเริ่มเข้าฝึกตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว
โดยหลังจากที่ปีศาจแดงได้พ่ายให้กับลิเวอร์พูล พวกเขาก็ไม่แพ้ให้กับทีมใหญ่ทีมไหนอีกเลยนับจนบัดนี้ ชนะ ซิตี้ 2 นัด ในเกมคาราบาว คัพ และ พรีเมียร์ลีก ชนะเชลซีในลีก ส่วนทีมเล็กก็เรียกได้ว่าตบเกือบเหี้ยน ก่อนจะมาสอนเชิงไบรจ์ตันถึงถิ่น เก็บสถิติไร้พ่ายกว่า 15 นัดแล้วรวมทุกรายการ
ปีศาจแดง ยิ่งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ
แม้ช่วงโควิดจะมาเบรกจังหวะความร้อนแรงของยูไนเต็ด แต่หลังกลับมาเตะดูเหมือนจะมีเรื่องดี เมื่อคีย์แมนอย่าง พอล ป๊อกบา และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟิตหายเจ็บกลับมาลงสนามได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้จากเดิมที่ทีมกำลังเข้าฝึก ทำให้ปีศาจแดงยิ่งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ
อีกครั้งกับประตูของ บรูโน่ แฟร์นานเดซ 8 นัด ยิง 5 จ่าย 3 ที่ตอกย้ำว่าหากนักเตะคือ ‘ของจริง’ ย่อมไม่ต้องมีข้ออ้างในการปรับตัวอะไรให้มากความ หากแต่เป็นเพื่อนร่วมทีมเขาด้วยซ้ำ ที่ควรจะต้องปรับตัวให้ทันเซนส์บอลที่สูงลิบของเขา
และสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ สุดยอดลูกเคาท์เตอร์ แอทแทค อันนำมาสู่ประตูที่ 3 เริ่มจากลูกโหม่งตัดเกมของแฮร์รี่ แมคไกวร์ มาเข้าทางมาติช ตวัดทีเดียวแบบไม่จับไปถึง เมสัน กรีนวู้ด ก่อนจะบรรจงเปิดไปที่เสาสองที่มีบรูโน่วิ่งเติมมาชาร์จเข้าไปอย่างสวยงาม ซึ่งประตูนี้ หากนับจากแมคไกวร์ ปีศาจแดงใช้เวลาสวนกลับทั้งสิ้นเพียง 11 วินาที จากนักเตะ 4 คนและเล่นเพียง 3 จังหวะเท่านั้น
มาถึงตรงนี้ โซลชาร์ก็น่าจะมี 11 ตัวจริงในใจบ้างแล้ว โดยมี เนมานย่า มาติช ที่มาถีบ สก็อตต์ แมคโทมิเนย์ และ เฟร็ด หลุดไปเป็นสำรอง ส่วนริมเส้นด้านขวาก็จะให้สลับกันลงอยู่บ้างระหว่าง แดเนียล เจมส์ และ กรีนวู้ด ซึ่งหลังจากทำผลงานยิง 1 จ่าย 1 ในเกมนี้ น่าจะทำให้ยึดตำแหน่งตัวจริงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับรายหลัง
และผลการแข่งขันในนัดที่ 32 ก็ดูเหมือนจะเป็นใจเหลือเกิน เมื่อ เลสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ต่างสะดุดพลาดทั้งคู่ ซึ่งทำให้ปีศาจแดงตามหลังอันดับ 3 และ 4 เพียง 3 และ 2 แต้มเท่านั้น
ซึ่งแม้เชลซีจะมีคะแนนตามหลังเลสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็ยังดูไม่น่าเป็นห่วงเท่า เพราะหลังจากนี้ จิ้งจอกสีน้ำเงินต้องเจอกับโปรแกรมหิน ๆ ทั้งนั้น ซึ่งหากปีศาจแดงยังรักษามาตรฐานนี้ไว้ได้จนจบฤดูกาล ทีมที่จะหลุดวงโคจร ก็คงไม่น่าพ้น เลสเตอร์ ซิตี้ อย่างแน่นอน
สามารถติดตามข่าวสารเรื่องราว ฟุตบอลนอกประเทศ และในประเทศ เพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ของเรา