ตลอดหนึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา ‘เชลซี’ ต้องดวลกับ ‘แมนฯ ยูไนเต็ด’ ไปแล้วถึง 3 ซึ่งผลปรากฎว่า ‘แฟรงค์ แลมพาร์ด’ ที่เพิ่งเข้ามาคุม เชลซี ปีนี้เป็นปีแรก ก็พ่ายให้กับ ‘โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์’ ไปทั้งหมด 3 เกม แบ่งเป็นในลีก 2 เกม เหย้า-เยือน และฟุตบอลลีกคัพอีก 1 เกม ราวกับบอลแพ้ทาง
แต่เกมสุดท้ายในศึก เอฟเอ คัพ ซึ่งนับเป็นเกมที่ 4 แล้วในการพบกันของทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้ ก็ได้เกิดผลลัพธ์ที่ต่างออกไป แฟรงค์ แลมพาร์ด พาลูกทีมมาถอนแค้น ยัดเยียดความปราชัยให้ปีศาจแดงได้สำเร็จ ทิ้งทวนฤดูกาลแบบ ‘สวย ๆ’ พร้อมกับกระซิบข้างหูเบา ๆ ว่า “ขออนุญาตเข้ารอบนะครับ”

ไฮไลท์ในเกมนี้ นอกจากผลการแข่งขันแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง ไล่ตั้งแต่ทีมชีทผู้เล่น 11 ตัวจริงก่อนลงสนาม รูปเกม รวมถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นไฮไลท์ได้ทั้งหมด
เริ่มตั้งแต่ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ของโซลชาร์ที่จัดตัวดูเหมือนจะ ‘กั๊ก’ อยากพักผู้เล่น แต่ก็อยากเข้ารอบด้วย เราได้เห็นกันไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว ที่ก่อนหน้านี้ ในบางเกม แม้ว่าสถานการณ์ของทีมจะเป็นฝ่ายนำ จนโอเล่ส่งผู้เล่นสำรองลงมาทำหน้าที่แทน ทุกครั้งที่ทำแบบนั้น มันยิ่งตอกย้ำว่าผู้เล่นสำรองไม่สามารถทดแทนกันได้เลยแม้แต่น้อย
ส่วนทางฝั่งเชลซีเอง แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ได้เลือกพักนักเตะตัวเก่งอย่าง ‘คริสเตียน พูลิซิซ’ ไว้ข้างสนาม รวมถึง กาบาเยโร่ ที่วันนี้ได้มีโอกาสเฝ้าเสาแทน เกป้า
และก็ตามที่เห็นครับ ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงหยดสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ที่วันนี้มาในระบบหลัง 5 คน ชัดเจนว่ากะมาเล่นเกมสวนกลับเต็มสูบ
แต่หลังเสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้น ผู้ชมที่ติดตามชมฟุตบอลคู่นี้อยู่ทั่วโลกคงได้เห็นกันแล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีความกระหายในการเล่นแม้แต่น้อย ต่างกับเชลซีที่เดินหน้าฆ่ามันอย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มเกม
แม้ เอริค ไบยี่ จะไม่ถูกหามส่งโรงพยาบาล, แม้ว่า แฮร์รี่ แมคไกวร์ หรือ ดาบิด เด เกอา จะไม่เล่นผิดพลาดจนเสียประตู ผมก็เชื่อครับว่า จนถึงท้ายที่สุด ยังไงเกมนี้ผู้ชนะก็ต้องเป็นลูกทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด อยู่ดี

จริงอยู่ที่ความล้าจากการที่ปีศาจแดง ได้พักน้อยกว่าเชลซี 2 วัน อาจมีส่วนในความพ่ายแพ้ครั้งนี้ แต่ใครล่ะที่มีหน้าที่จัดการกับปัญหาตรงนี้ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้จัดการทีมหรอกหรือ
และก็จริงอยู่ว่า โซลชาร์ มีผู้เล่นที่ดีพอกับการเป็นตัวหลัก 11 คนพอดีเป๊ะ ทำให้โรเตชั่นแล้วทีมยวบ แต่อย่าลืมว่า แลมพาร์ดเอง เข้ามาคุมทีมในสภาพงบ ‘0 ปอนด์’ ไม่สามารถเสริมทีมได้แม้แต่คนเดียวจากโทษแบนในตลาดซื้อ-ขาย
แม้ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอในเกมฟุตบอล แต่การตัดสินใจที่ผิดพลาดของ โอเล่ ในครั้งนี้ คือสิ่งที่โอเล่ต้องเก็บกลับไปทำการบ้านของตัวเองต่อไป ว่าเพราะความ ‘รักพี่ เสียดายน้อง’ ในครั้งนี้
ทำให้เขาต้องเสียทั้ง 2 ทาง นั่นคือทั้ง ‘ถ้วยเอฟเอ คัพ’ และ ‘นักเตะตัวหลัก’
ในสถานการณ์ที่เขาจำเป็นต้องใช้นักเตะตัวหลักลากยาวจนจบฤดูกาลที่แสนยาวนานนี้
สามารถติดตามข่าวสารเรื่องราว ฟุตบอลนอกประเทศ และในประเทศ เพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ของเรา