ภายหลังจากที่กาม่า ได้ขอลาออกจากการทำหน้าที่โค้ช เพื่อกลับไปรับงานกับทีมเก่าอย่างบุรีรัมย์ ก่อนที่บอร์ดของสโมสร เมืองทอง จะแก้วิกฤตศรัทธาในครั้งนี้ด้วยการดึงมาริโอ้ ยูรอฟสกี้ อดีตผู้เล่นในตำนานชุดแชมป์ไร้พ่าย เข้ามาคุมทีม ทำให้เกมระหว่าง โปลิศเทโร กับ เมือทอง ที่สนามบุญยจินดา กลายเป็นเกมที่ถูกจับตามองขึ้นมาทันที

เกมเริ่มต้นด้วยความคึกคักของผู้เล่นเมืองทอง ที่บีบกดดันในแดนของเทโร จนเจ้าถิ่นออกบอลพลาดหลายครั้ง กลายเป็นเกมโต้กลับของเมืองทอง ซึ่งเกือบทำสำเร็จโดยการส่งบอลไปกองก้นตาข่าย แต่ถูกจับล้ำหน้าด้วย VAR ต่อเนื่องจนถึงจังหวะในนาทีที่ 8 การต่อบอลอย่างรวดเร็วของเมืองทอง ทำให้แนวรับเทโรประกบพลาด จนเปิดช่องกว้างให้เมืองทองได้เปิดบอลไปให้ พอพพ์ โหม่งโล่งๆ แต่เจ้าตัวดันโหม่งไม่เข้าเอง ซึ่งส่วนหนึ่งต้องโทษสัญชัย นนทศิลา ด้วย ที่ไม่มองตัวผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งยังปล่อยให้วิ่งผ่านหน้าไปในแบบที่ไม่ได้กระโดดเบียดบังบอล ส่วนหลังจากนั้นเมืองทองได้ลดสปีดบอลลงไป พร้อมกับโอกาสเข้าทำที่น้อยลงไปและจบด้วยผลเสมอที่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง เมืองทอง เริ่มต้นด้วยการรับโชคจากลูกจุดโทษ
แต่ด้วยความชะล่าใจของ สุพร ผู้เล่นทีมเยือน ที่บอลย้อนหลังเกร็ก แต่ดันปล่อยให้ดาวเตะชาวฝรั่งเศสเกี่ยวบอลกลับมา จนได้หลุดไปเปิดย้อนกลับมาให้อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ยิงจ่อๆ เป็นประตูตีเสมอให้กับเทโร
ลูกยิงขึ้นนำ 1-2 ของเมืองทอง พิชา อุทรา ยิงได้ดี แต่สำหรับการป้องกันก็ยังไม่ถึงขั้นสุดวิสัยหมดทางป้องกัน หากเซฟได้ก็จัดว่ายอดเยี่ยม แต่ถ้าไม่ได้ก็ยังไม่จัดว่าผิดพลาดแบบน่าเกลียด ส่วนประตู 1-3 ความผิดพลาดของควอน แต ฮี ที่ยืนต่ำ ทำให้ พอพพ์ ได้ลากและมีเวลาได้เล็งก่อนยิงประตู
การขึ้นนำด้วยระยะห่าง 2 ประตู ทำให้เห็นถึงสมาธิที่ขาดความนิ่งของผู้เล่นเมืองทอง จนเกือบโดนโปลิศเทโร ยิงตีตื้นหลายครั้ง แต่ยังโชคดีว่าฝั่งเจ้าบ้านก็ไม่คมเอง
ทำให้จบเกมนี้ กลายเป็นการประเดิมโค้ชใหม่อย่างสวยงาม แต่ถึงระนั้นเมืองทอง ยังคงต้องกลับไปปรับจูนเกมรุก เกมรับ และสมาธิในเกมการแข่งขัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการบุกเยือนบุรีรัมย์ ส่วนโปลิศเทโร เจ้าบ้าน สถานการณ์ยังทรงตัวอยู่ ไม่ต้องกังวลถึงการหนีตกชั้นในเวลานี้
สามารถติดตามข่าวสารเรื่องราว ฟุตบอลนอกประเทศ และในประเทศ ข่าวบอลไทยลีก เพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ของเรา ที่ได้รับการสนับสนุนโดย ufa9999 กับบทความดีๆที่ส่งตรงถึงผู้อ่าน