บราซิล เชือด เปรู 1-0

บราซิล ไล่ถล่ม เปรู มาแล้ว 4-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม เกมนี้พวกเขาวาง เนย์มาร์ เป็นหน้าเป้า โดยมี ลูคัส ปาเกต้า คอยปั้นเกมรุกอยู่ด้านหลังร่วมกับ เอฟเวอร์ตอน และ ริชาร์ลิซอน และให้ เฟร็ด คอยคุมแดนกลางร่วมกับ คาเซมิโร่ ทางฝั่ง เปรู พวกเขามาสู้ด้วยระบบ 5-4-1 ส่ง จานลูก้า ลาปาดูล่า ลงเป็นหน้าเป้า โดยมี เรนาโต้ ทาเปีย คอยปั้นเกมรุกร่วมกับ คริสเตียน คูเอว่า และ เซอร์คิโอ เปนญ่า ฟุตบอลโคปา อเมริกา 2021 : บราซิล พบ เปรู รอบรองชนะเลิศ : สนาม เอสตาดิโอ โอลิมปีโก้ นิลตันContinue Reading

บราซิล

                ในปี 2002 นั้นถือเป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกได้มาจัดในทวีปเอเชียโดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ได้โอกาสเป็นเจ้าภาพของการแข่งขันระดับสูงครั้งนี้ โดยทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ถือเป็นการแจ้งเกิดของนักเตะทีมชาติ บราซิล หลายคนไม่ว่าจะเป็นโรนัลโด้และโรนัลดินโญ่นักเตะของปารีส แซงต์ แชร์แมงในขณะนั้น ก่อนที่ทีมแซมบ้าที่มีขุมกำลังแข็งแกร่งสุดขีดจะเข้าป้ายเป็นผู้ชนะพร้อมครองสถิติแชมป์ 5 สมัยในที่สุด ทีมชาติ บราซิล ได้ลงแข่งในรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลโลกได้อย่างสวยงาม                 โดยเอาชนะทั้งตุรกี คอสต้าริกาและจีนไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายสองนักเตะตัวเก่งอย่างริวัลโด้และโรนัลโด้จะช่วยทำกันคนละประตูให้ทีมเอาชนะเบลเยี่ยมไปได้ 2-0 เพื่อไปเจอกับทีมชาติอังกฤษที่มีสภาพทีมแข็งแกร่งเช่นกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แม้ว่าทีมชาติอังกฤษจะทำประตูขึ้นได้ก่อนก็ตามจากกองหน้าตัวเก่งอย่างไมเคิ่ล โอเวนส์ในนาทีที่ 30 แต่ด้วยทีเด็ดของริวัลโด้และลูกยิงฟรีคิกของโรนัลดินโญ่ที่หลอกผู้รักษาประตูจนเสียท่าทำให้ทีมแซมบ้าได้เข้ารอบตัดเชือกของฟุตบอลโลกได้สำเร็จ                 ในรอบ 4 ทีมสุดท้ายนั้นเยอรมันต้องไปเจอเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปีนั้นอย่างเกาหลีใต้ ส่วนบราซิลได้เจอตุรกีทีมม้ามืดประจำปีนั้น โดยทางเยอรมันสามารถโชว์ฟอร์มเขี้ยวกว่าเอาชนะไปได้ 1-0 ก่อนที่โรนัลโด้จะช่วยทำประตูให้ทีมชาติของเขาเข้ารอบชิงชนะเลิศในสกอร์เดียวกัน จนมาถึงรอบชิงชนะเลิศที่เป็นสองทีมแกร่งมีโอกาสมาเจอกันโดยมียอดผู้รักษาประตูอย่างโอลิเวอร์ คาห์นที่ได้มาปะทะกับยอดศูนย์หน้าในเวลานั้นอย่างโรนัลโด้นั่นเอง ก่อนสุดท้ายจะเป็นกองหน้าฟิเนมิโน่คนนี้ที่ทำได้ถึง 2  ประตูช่วยให้ทีมเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จ                 แม้ว่าทีมชาติเยอรมันจะต้องอกหักไปอย่างน่าเจ็บใจ และต้องรออีกกว่า 10 ปีก่อนที่พวกเขาจะกลับมาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้อีกครั้งในปี 2014 ส่วนทางด้านทีมชาติบราซิลที่หมดยุคของสามอาร์ไปนั้นยังคงต้องรอแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 6Continue Reading