แฟรงค์ แลมพาร์ด

            รอสส์ บาร์คลี่ย์ อดีตมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ย้ายซบ แอสตัน วิลล่า คู่แข่งร่วมเวที พรีเมียร์ลีก ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล หลังดาวเตะวัย 26 ปีแทบจะกลายเป็นส่วนเกินในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นับตั้งแต่ “แฟรงค์ แรมพาร์ด” เข้ามานั่งเก้าอี้นายใหญ่ของทีมสิงห์บลู  โดยทาง “สิงห์ผงาด” ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่า รอสส์ บาร์คลี่ย์จะเข้ามาช่วยยกระดับทีมได้อย่างแน่นอน “รอสส์ บาร์คลี่ย์” จำต้องหลีกทางให้ “ไค ฮาร์แวร์ทซ์” และ “ฮาคิม ซิเย็ค”             รอสส์ บาร์คลี่ย์ได้รับโอกาสในการลงสนามให้ต้นสังกัดอย่าง เชลซี ค่อนข้างน้อยมาตั้งแต่ช่วงฤดูกาลที่แล้ว ยิ่งโอกาสลงสนามในฐานะตัวจริงก็น้อยลงเต็มที แถมในซีซันนี้ยอดทีมแห่งกรุงลอนดอนเสริมทัพแบบมโหฬาร โดยเฉพาะตำแหน่งมิดฟิลด์อย่าง “ไค ฮาร์แวร์ทซ์” และContinue Reading

ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมันของแอร์เบ ไลป์ซิก ตกเป็นข่าวว่าตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับ “สิงห์บลู” เชลซี ยอดทีมจากลอนดอน หลังจากตกเป็นข่าวพัวพันกับลิเวอร์พูลมาอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งการอ่อยด้วยวิธีอ้อม ๆ ในโซเชียลก็แล้ว อ่อยตรง ๆ เวลาให้สัมภาษณ์ว่าอยากไปร่วมงานกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็แล้ว แต่ล่าสุดดูเหมือน ติโม แวร์เนอร์ จะต้องอกหักจริง ๆ ซะแล้ว เมื่อยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ไม่มีปัญญาจ่ายค่าฉีกสัญญา 55 ล้านยูโรตามข่าวลือที่หลุดออกมา เนื่องจากหงส์แดงเองก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ต้องรับเคราะห์จากวิกฤตโควิด-19 ไม่ต่างจากสโมสรอื่น ๆ ทั่วโลก และเราจะมาลองวิเคราะห์ดูว่า จะเกิดเอฟเฟ็กต์อะไรขึ้นบ้าง หลัง ติโม แวร์เนอร์ ย้ายซบสิงห์บลู ชื่อของเชลซีและแลมพาร์ดยังขายได้เสมอ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่กำลังรีบิวท์ทีมขึ้นมาใหม่ เนื่องจากนักเตะตัวหลักทยอยโรยรากันไปหมดแล้ว แต่ดีลของ ติโม แวร์เนอร์ ทำให้ทุกอย่างมันสะท้อนว่า ในสายตาของนักเตะระดับท็อป สิงห์บลูยังเป็นทีมที่มีระดับอยู่เสมอ รวมถึงเป็นการฉีกหน้าลิเวอร์พูลที่เป็นข่าวมานานก่อนหน้าอีกด้วย ด้วยการฉีกสัญญาอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง นอกจากนั้นยังมีข่าวว่าContinue Reading

แฟรงค์ แลมพาร์ด ถ่ายกุนซือคนเก่งของสโมสรเชลซี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ตอนนี้โอกาสของพวกเขาที่จะ ไปเล่นเกมใหญ่ยุโรป หรือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้านั้น อยู่ในมือพวกเขาแล้วเพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 4 มี 60 คะแนน แม้ว่าจะโดนอันดับที่ 5  แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไล่มาด้วย 58 แต้มก็ตามซึ่งเกมพรีเมียร์ลีกนัดถัดไปของพวกเขานั้น จะต้องเจอกับ เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด  ซึ่งจะเป็นเกมในคืนวันอาทิตย์นี้หากพวกเขาสามารถเก็บ 3 คะแนนได้ ก็จะเพิ่มความมั่นใจซึ่งได้กล่าวผ่านสื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาอันดับนี้ไว้ให้ได้แต่โอกาสอยู่ในมือพวกเราแล้ว ก็ต้องรักษามันเอาไว้ให้ดีที่สุดเกมหลังจากนี้เราจะพลาดไม่ได้อย่างน้อยจะต้องมี 1 คะแนน แ แลมพ์ เชื่อว่านักเตะทุกคนในทีมก็หวังที่จะไปเล่น รายการนี้ในฤดูกาลหน้า ดังนั้นทุกคนก็จะต้องร่วมมือร่วมใจทำผลงานในแต่ละนัดออกมาให้ดีที่สุด  “แฟรงค์ แลมพาร์ด” จะสามารถเก็บ 3 คะแนนเต็มได้ทุกนัดหรือไม่ เขายังย้ำว่าเราจะไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นถ้าเราไม่สามารถไปเล่น ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ได้มันจะเป็นความผิดพลาดของพวกเราทันที ซึ่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด  ยังกล่าวอีกว่าเขาไม่ได้กดดันลูกทีม แต่สถานการณ์นี้ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าโอกาสนี้สำคัญมากแค่ไหน และทำไมเราจะต้องรักษามันไว้ให้ได้ ไม่ให้หลุดมือออกไปดังนั้นการกระตุ้นทุกคนในทีมให้ร่วมกัน ตั้งใจทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดและ คว้าชัยชนะให้ได้ทุกนัดจะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราหายเหนื่อยในฤดูกาลนี้ เพราะพวกเราพยายามกันมากContinue Reading

ราฮีม สเตอร์ลิง นักเตะตำแหน่งกองหน้าชาวอังกฤษ ประจำสโมสรทีมแมน ซิตี้ ได้ออกมาเผยถึงความรู้สึกส่วนตัว ในวงการค้าแข้งที่ชาวผิวสีมักจะเป็นตัวเลือกสำรองหรือแทบไม่ได้รับโอกาสเลยเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการทำหน้าที่เป็นกุนซือใหญ่ใหญ่ลีกยุปโรประดับชั้นนำ ทำให้หลายคนถอดใจเลือกที่จะไปทำตามความฝันที่ลีกรองลงมาแทน ซึ่งตัว ราฮีม สเตอร์ลิง ยังมองอีกว่าบรรดานักเตะที่เป็นชาวผิวขาวกลับมีเส้นทางในการพัฒนาอาชีพฟุตบอลอย่างราบรื่นเช่น สตีเว่น เจอร์ราด กัปตันทีมขวัญใจประชาชนของทีมลิเวอร์พูลหรือจะเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด ดาวยิงของสิงห์โตน้ำเงินคราม ที่ปัจจุบันทำหน้าที่กุมบังเหี้ยนให้แก่ทีมอยู่ จากการเสียชีวิตของชายชาวผิวสี จอร์จ ฟลอยด์ ทำให้เกิดกระแสลุกฮือขึ้นต่อต้านตำรวจไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและตอนนี้ได้ขยายไปยังประเทศต่างๆ เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมในการปฏิบัติต่อชาวผิวสีทั่วโลก ที่มักจะถูกปฏิบัติแบบไม่มีความเสมอภาคอยู่เสมอ ราฮีม สเตอร์ลิง ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเส้นทางค้าแข้งของ คนผิวสี มีคนดังในแวดวงการฟุตบอลต่างออกมาแสดงความคิดเห็นโดยหนึ่งในนั้นก็คือ “ราฮีม สเตอร์ลิง” ดาวยิงแมนซิตี้ ที่ตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในนักเตะผิวสีเช่นกัน อีกทั้งยังตัดพ้อว่าเส้นทางการค้าแข้งมักจะไม่เอื้ออำนวยต่อนักเตะผแบบเขาอยู่เสมอ “โลกมักจะแบ่งคนเป็นสองประเภทอยู่เสมอ คนที่ถูกดูแลเป็นอย่างดีและคนที่ถูกมองข้าม ผมเองอดไม่ได้ที่จะตั้งข้อสงสัยว่าทำไมเราถึงไม่ค่อยได้เห็นคนผิวสีได้คุมบังเหี้ยนทีม เรามักจะมีกุนซือใหญ่เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงของทีมนั้นนั้นเข้ามาทำหน้าที่นี้อยู่เสมออย่างเช่น สตีวี่ , แลมพาร์ด เหมือนทุกอย่างถูกกำหนดไว้ให้พวกเขาหมดแล้วโดยไม่ต้องลงแรงอะไร.” ราฮีม สเตอร์ลิง กล่าว สามารถติดตามข่าวสารเรื่องราว ฟุตบอลนอกประเทศ และในประเทศContinue Reading